กิจกรรม - กิจกรรมชายหาด - ดำน้ำตื้น
ตัวเคลื่อนไหว
วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
เกาะหวาย
กิจกรรม - กิจกรรมชายหาด - ดำน้ำตื้น
วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
ห้องสมุดลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
100 ตัน 6,000 เรื่อง 500,000 เล่ม
นับเป็น "ร้านหนังสือลอยน้ำ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก"
เป็นเรือที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน
วันนี้พี่นัทจะมีเรื่องราวน่าสนใจของเรือลำนี้
ตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 ยังรับหน้าที่เป็นเรือสนับสนุนของอเมริกา ส่วนสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเรือยามตรวจการณ์
มีลูกเรือที่เป็นอาสาสมัครจาก 30 ประเทศทั่วโลกจำนวนกว่า 300 คน งานบนเรือแบ่งเป็นงานด้านหนังสือ ดูแลต้อนรับ ฝ่ายช่าง ฝ่ายเทคนิค ฝ่ายอาหาร ฝ่ายจัดการ อื่นๆ อีกมากมาย เหมือนกับบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งทีเดียว ปัจจุบัน เรือดูโลส บรรทุกหนังสือ ต่างๆจำนวน 4,000 - 6,000 เรื่อง และที่ ผ่านมามีประชาชนทั่วโลกถึง 15 ล้านคน ได้เยี่ยมชมเรือดูโลส มาแล้วเพราะดูโลสได้แวะในประเทศต่างๆมาแล้ว 87 ประเทศ
ลอยกระทงนานาชาติ
ลอยกระทงพม่าลอยเพื่อบูชาพระอุปคุตที่อยู่กลางสะดือทะเล ว่า ต้นเหตุเรื่องลอยกระทงของชาวบ้านเรื่องหนึ่งว่า พระเจ้าธรรมาโศกราชจะทรงสร้างพระเจดีย์ ๘๔.๐๐๐ แต่ถูกพระยามารคุกคามทำลายพระเจดีย์เหล่านั้น พระเจ้าธรรมาโศกราชจึงทรงขอร้องพระอุปโคต พระยานาค ให้ช่วยจับพระยามารด้วย พระอุปคุตจึงจัดการปราบพระยามาร เป็นผลสำเร็จ แต่นั้นมาราษฎรจึงทำพิธีลอยกระทงเพื่อขอบคุณพระยานาคสืบมาทุกปี
ลอยกระทงจีนประเทศจีนทางตอนเหนือในหน้าน้ำ น้ำท่วมเสมอ บางปีไหลแรงท่วมท้นจนหนีไม่พ้น ทำให้มีคนจมน้ำตายนับจำนวนเป็นแสนๆ และที่หาศพไม่ได้ก็มาก ราษฎรจึงจัดกระทงใส่อาหารลอยน้ำไป เพื่อเซ่นไหว้ผีน้ำเหล่านั้น
ลอยกระทงเขมรลอยสองครั้ง คือตอนกลางเดือน ๑๑ กระทงนั้นเป็นขนาดเล็กและมีอาหารบรรจุไปด้วย ส่วนกลางเดือน ๑๒ ทำเป็นกระทงใหญ่ แต่มีอาหารบรรจุไปในกระทงด้วย เพื่อส่งส่วนบุญไปให้เปรต
ลอยกระทงอินเดียลอยกระทง เพื่อบูชาเทวดาที่ตนนับถือ ที่เทวดาได้ให้ความอุดมสมบูรณ์แก่ตนและครอบครัว เป็นพิธีทำเป็นประเพณีสืบมาแต่โบราณ
วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
กินยาพารามากเกินไประวังตับวาย
ในแต่ละปี สหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยที่ได้รับรายงาน ความเป็นพิษจากยาพาราเซตามอลประมาณ 100,000ราย ถูกนำส่งห้องฉุกเฉิน
56,000ราย ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล26,000รายการใช้พาราเซตามอลเป็นประจำจะทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นมะเร็งไตเพิ่มขึ้นเท่าตัวซึ่งโรคนี้คร่าชีวิตคนอเมริกัน12,000ราย ต่อปี อุบัติการณ์ในการเกิดมะเร็งไตในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นถึง126%นับตั้งแต่ทศวรรษ1990เป็นต้นมา การก้าวกระโดดของการเกิดโรคนี้อาจจะเกี่ยวโยงกับการใช้ยาที่ผสมพาราเซตามอลเพิ่มขึ้น เนื่องจากอนุมูลอิสระจากtoxic metaboliteของพราราเซตามอลกระจายไปทั่วร่างกาย เพราะฉะนั้นก็สามาารถทำให้เพิ่มความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวข้องกับความแก่ชราอย่างอื่นได้อีก นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองในสัตว์พบว่าพาราเซตามอลทำให้เกิดต้อกระจกในสัตว์ทดลองได้
สำหรับภาวะพิษจากพาราเซตามอลเกิดขึ้นได้จากเหตุโดยตั้งใจ คือการรับประทานยาเกินขนาดเพื่ออัตวินิบาตกรรม และโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเกิดได้จากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้
1.รับประทานยาชนิดอื่นที่มีส่วนผสมของราราเซตามอลโาดยไม่ทราบ แล้วรับประทานพาราเซตามอลเข้าไปอีก เนื่องจากปัจจุบันยาหลายชนิดมีส่วนผสมของพาราเซตามอล เช่น ยาบรรเทาหวัดลดไข้ ยาบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ ยาคลายกล้ามเนื้อหลายชนิด
2.ปัจจัยเฉพาะบุคคลที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อตับได้ง่าย เช่นในผู้ที่ดื่มสุรา ผู้ป่วยโรคตับภาวะขาดสารอาหารซึ่งส่งผลให้ระดับกลูต้าไธโอนลดลง ในกลุ่มนี้ก่อให้เกิดพิษจากพาราเซตามอลได้ง่าย แม้ว่าจะรับประทานในขนาดปกติก็ตาม
3.การใช้ยาร่วมกัน โดยเฉพาะยาที่ออกฤทธิ์กระตุ้นเอนไซม์ในระบบขับสารพิษชื่อCYP450 2E1ในตับเช่นยาphenytoin, carbamazepine, rifampinเป็นต้น
ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้พาราเซตามอล ในผู้ป่วยที่เป็นโรคตับเรื้อรัง พิษสุรา ภาวะขาดสารอาหาร และในผู้ที่กำลังรับประทานยาที่กระตุ้นเหนี่ยวนำเอนไซม์ cytochrome P450 2E1 ...ห้ามทานพาราเซตามอลแล้วดื่มสุรา หากกำลังใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาบรรเทาหวัด ให้อ่านฉลากให้ดีว่ามีส่วนผสมของพาราเซตามอลหรือไม่ และไม่รับประทานซ้ำซ้อนข้าไปอีกและที่สำคัญไม่ควรใช้ยานี้เกินวันละ2,600มิลลิกรัม(ประมาณ5เม็ด ในขนาด500 mg ,จำนวน8เม็ดในขนาด325มิลลิกรัม)ขนาดรับประทานคือ10มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม สูงสุดไม่เกินครั้งละ650มิลลิกรัม ส่วนการใช้ยาพาราเซตามอลกับเด็กเล็กๆ นั้นให้ดูฉลาก และคำนวณความต้องการให้ถูกต้องก่อนเสมอ เพราะยาน้ำนี้ในประเทศไทยมีหลายขนาด ปริมาณมิลลิกรัมต่อหนึ่งช้อนชาแตกต่างกันไป
อีกข้อห้ามที่หลายคนยังไม่ทราบก็คือไม่ควรใช้ยาพาราเซตามอลติดต่อกันเกิน3วันเราสามารถใช้ยาทางเลือกแทนการใช้ยาพาราเซตามอลได้ เช่น ยาเขียวแก้ไข้ ยาจันทลีลา ยาฟ้าทะลายโจร ยาขมชนิดต่างๆ ล้วนมีฤทธิ์ลดไข้ได้เช่นกัน
สิ่งต้องห้ามสำหรับ Social Network
เตือนภัยเด็กดีวันนี้ขอโหนกระแสความฮอตของSocail Networkที่น้องๆกำลังใช้กันอยู่ในตอนนี้ ว่ากันด้วยเรื่องของความปลอดภัยเกี่ยวกับใช้งานของSocial Networkประเภทนี้ซึ่งเป็นเรื่องที่น้องๆ อาจจะมองข้ามไป
และนี่คือส่วนหนึ่งของบทความเรียงจาก7 Things to Stop Doing Now on Facebook by Consumer Reports Magazine Wednesday, May 12, 2010เป็นคำกล่าวของCharles Pavelites,ผู้ชำนาญการพิเศษของหน่วยงานศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ได้กล่าวถึงรายละเอียดที่ผู้ใช้บริการไม่ควรเปิดเผยบนSocial Network โดยเฉพาะอย่างยิ่ง facebook ที่หลายๆ คนนิยมอยู่ในขณะนี้ว่า7สิ่งที่เราควรจะหยุดทำทันทีในFacebookคือ
1.ใช้รหัส ผ่านแบบง่าย ๆ …เราควรจะหลีกเลี่ยงการใช้ ชื่อธรรมดา หรือคำทั่วไปที่สามารถหาพบได้ในพจนานุกรม หรือแม้แต่ตัวเลขที่ลงท้ายรหัสผ่านดังกล่าว ควรใช้การผสมระหว่าง ด้านหน้า ด้านหลังตัวอักษร ด้วยตัวเลข หรือสัญลักษณ์ รหัสผ่านควรมีแปดตัวอักษรอย่างน้อย เทคนิคที่ดีอย่างหนึ่งคือ การเพิ่มตัวเลขหรือ สัญญลักษณ์ระหว่างกลางคำผ่าน วิธีนี้จะช่วยให้การเสิร์ชหาชื่อได้ยากขึ้น
2.ระบุวันเดือนปีเกิดในข้อมูลสาธารณะ …เพราะนั่นจะเป็นการเอื้อให้เกิดการโจรภัยทางข้อมูลแบบเบื้องต้น ผู้ไม่หวังดีมักจะใช้ในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเรา เพราะมันจะมีประโยชน์อย่างมากในการเข้าถึงข้อมูลธนาคารหรือบัตรเครดิต ถ้าเราได้ระบุวันเกิด ให้กลับไปที่ข้อมูลส่วนตัว เข้าไปแก้ไขข้อมูลส่วนตัว ระบุข้อมูลพื้นฐานคือ ไม่แสดงวันเกิดในข้อมูลส่วนตัว หรือ แสดงเฉพาะวันและเดือนเกิดในหน้าข้อมูลส่วนตัว
3.ตรวจสอบการใช้งานของข้อมูลส่วนตัว …ข้อมูลทั้งหมดในFacebookของเรา ควรกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงของเพื่อน เช่น การเข้าชมรูปภาพ วันเกิด ศาสนา และข้อมูลของครอบครัว หรือสิ่งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา เช่น ข้อมูลในการติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ สถานที่อยู่ ควรจำกัดสิทธิ์เฉพาะบุคคลหรือกลุ่มที่สามารถจะเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว หรือจัดการบล็อกบุคคลที่เราไม่ต้องการให้เข้าถึงข้อมูล
4.ระบุชื่อพ่อแม่ ญาติพี่น้อง โดยมีข้อความที่อธิบายหรือตำบรรยายใต้ภาพประกอบ …เราไม่ควรทำเช่นนั้นเด็ดขาด เพราะนั่นจะทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถทราบถึงข้อมูลที่สามารถนำไปประกอบอาชญากรรมบางอย่างได้(เพราะรู้ว่าเป็นลูกหลานของใครมีฐานะการเงินเป็นเช่นไร)
5.การบอกว่า กำลังออกจากบ้าน …เป็นเหมือนการแจ้งให้ใครต่อใครรู้ว่าจะไม่มีใครอยู่ในบ้าน หรือเราไม่ได้อยู่ที่บ้านในตอนนั้น ซึ่งอาจจะเกิดผลร้ายได้ถ้าหากเรากำลังตกเป็นเป้าของอาชญากร ทางที่ดีให้รอจนกลับถึงบ้านแล้วค่อยบอกถึงกิจกรรมที่ไปทำมาก็ได้
6.การปล่อยให้Facebookค้นหา พบคุณ …เพื่อป้องกันคนแปลกหน้าเข้าถึงหน้าข้อมูลของเรา ให้ไปที่การค้นหาของFacebookข้อมูล ส่วนตัว และเลือกเฉพาะเพื่อนเท่านั้นของFacebookที่จะค้นพบข้อมูลดังกล่าว และให้มั่นใจว่ากล่องข้อมูลสาธารณะไม่ได้ระบุให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้
7.อย่าให้เด็กใช้Facebookโดยไม่ตรวจสอบ ควบคุม …แม้ว่าFacebookจะ ไม่อนุญาตให้เด็ก อายุต่ำกว่าสิบสามขวบหรือยังไม่ถึงเกณฑ์ใช้งาน แต่หลายคนก็ทำการปลอมอายุเข้าไปใช้ได้ ถ้าน้องๆมีเพื่อนหรือน้องๆ ที่ยังไม่มีวุฒิภาวะและวิจารณญาณในการเล่นSocial Networkวิธีที่ดีที่สุดคือ เราควรจะเข้ารวมเป็นสมาชิกในกลุ่มเพี่อนของเขา หรือให้ใช้emailของเราแทนในการติดต่อระหว่าง บัญชีของเขา เพื่อที่เราจะได้รับข้อความหรือตรวจสอบการใช้งานของเขาได้
…จำไว้นะคะว่า สิ่งที่เราคิดว่าไม่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายได้ เพราะเป็นเรื่องไกลตัว อาจจะนำมาซึ่งอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของเราก็ได้ค่ะ … เทคโนโลยีก็เหมือนดาบสองคม มีทั้งด้านบวกและด้านลบ เพราะฉะนั้นใช้วิจารณญาณในการใช้งานให้มาก เป็นทางที่ดีที่สุดค่ะ